บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตส จำกัด ("บริษัท" หรือ "ของบริษัท") ซึ่งเป็นบริษัทผู้ว่าจ้าง ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของพนักงานและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณแล้วของท่าน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่ท่านเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับท่าน และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การ จ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่ท่านหากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับท่านได้ และในบางกรณีบริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างท่านหรือว่าจ้างท่านต่อไปได้
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้ท่านทราบถึงนโยบายฉบับปรับปรุงล่าสุดหรือขอความยินยอมจากท่านอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ
ในนโยบายฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้ท่านทราบหรือขอความยินยอมจากท่านอีกครั้ง
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับท่นซึ่งระบุถึงตัวท่านหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานท่าน บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่นบริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน โคยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม (เช่น ผู้บังคับบัญชาของท่าน หน่วยงานของรัฐ ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ และ
แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่นซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปีดเผย และ/หรือ โอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
ㆍข้อมูลระบุตัวบุคคลและรายละเอียดการติดต่อ เช่น ชื่อเต็ม วันเกิด สัญชาติ ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน และเลขหนังสือเดินทาง
ㆍข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน และผู้รับผลประโยชน์
ㆍข้อมูลเกี่ยวกับงาน เช่น ตำแหน่งหรือฐานะ ตำแหน่งงาน แผนก รายละเอียดเกี่ยวกับสัญญา ประวัติส่วนตัว ประวัติการจ้างงาน และใบสมัครงาน
ㆍข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนและผลประโยชน์ของท่าน เช่น ข้อมูลค่าจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน และสิทธิที่จะได้รับผลประ โยชน์ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลการขาดงาน เช่น วันที่ขาคงาน หรือการใช้วันหยุดพักร้อนและวันลาประเภทอื่นของท่าน ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย เช่น การประพฤติมิชอบหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะพนักงาน ประวัติการประเมินผล เช่น การประเมินผลการปฏิบัติงานและการพิจารณาทบทวนผลการปฏิบัติงาน ประวัติการศึกษา เช่น ประวัติการเรียน ใบรับรองผลการศึกษา ประกาศนียบัตร สถานภาพทางทหาร ข้อมูลการถือหลักทรัพย์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บ
รวบรวม ใช้ เปิดเผข และหรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอม โดยชัดแจ้งจากท่าน หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่านซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เบีดเผย และ หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ)
ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ผลการทคสอบการใช้ย1 ข้อมูลการรักษาพยาบาล และข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี)
ประวัติอาชญากรรม
เชื้อชาติและศาสนา
หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท (เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับท่าน ของคู่สมรส ผู้รับผลประ โยชน์ บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของท่น) ท่นขอรับรองว่าท่านมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดั่งกล่าวตามน โยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งท่านจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้ และหรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และหรือโอนข้อมูลส่วนบุดคลและ ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่านเพื่อคำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของท่าน และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะ นายจ้างของท่านและในการดำเนินธุรกิจ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
2.1 วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมของท่านสำหรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
บริษัทอาศัญความยินยอมของท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ เปีดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของ
ท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ ข้อมูลชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ เพื่อการเข้าไปในอาคาร ประวัติอาชญากรรมและข้อมูลสุขภาพ เพื่อการพิจารณาใบสมัครงานและตัดสินใจจ้างงาน การดัดกรองประวัติ และการติดตามตรวจสอบข้อมูลเชื้อชาติและศาสนา เพื่อการให้โอกาสอย่างเท่าเทียมและความหลากหลาย วัตถุประสงค์ทางค้านสถิติและการวิเคราะห์ เพื่อการปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้างงาน
ในกรณีที่หลักเกณฑ์ในทางกฎหมายคือการขอความยินยอม ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยท่านสามารถติดต่อฝ่ายทรัพยากรบุดคลและธุรการ เบอร์ โทรศัพท์ติดต่อ ----- เพื่อ
ถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้
การเปิดเผย และการ โอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของท่านไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของท่านก่อนที่จะ
ขอถอน
2.2 วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ในการเก็บรวม ใช้
เปิดเผย และโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย กล่าวคือ
(ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับท่าน
(ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(3)เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และเพื่อเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการกิจเพื่อประโยน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆในการเก็บรวม ใช้เปิดเผยบริษัท อาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยกล่าวคือ
(ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับท่น
(ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่น
(ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ
(จ) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากท่านคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
การประมวลผลใบสมัครของท่านสำหรับการจ้างงาน การฝึกงาน งานนอกเวลา หรืองานชั่วคราว
การยืนยันตัวบุคคลและการติดต่อ
การประเมินและให้คะแนนผู้สมัคร เพื่อการตัดสินใจจ้าง
การประเมินความเหมาะสม
การจ่ายเงินเดือนหรือค่าตอบแทน และการให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ
การคัดกรองประวัติ หากท่านได้รับการเสนอตำแหน่งงานกับบริษัท
การติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่ท่านกำหนด
วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผล ตามที่ระบุไว้ในใบสมัครงานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องใด ๆ หากท่านคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปีดเผย เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
การสรรหาบุคลากร เช่น การตัดสินใจจ้างหรือเปลี่ยนแปลงประเภทของสัญญาจ้างงาน (เช่น การเปลี่ยนสถานภาพของท่านจากผู้ฝึกงาน ลูกจ้างชั่วคราว หรืองานนอกเวลา เป็นพนักงานประจำ)
การจัดให้มีการฝึกอบรม เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จำเป็น และกระบวนการปฐมนิเทศและเรียนรู้งาน
เงินเดือน ค่าตอบแทน และการให้ผลประ โยชน์ต่าง ๆ เช่น ค่าจ้าง โบนัส และสวัสดิการ
การบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การจัดสรรทรัพยากร การตรวจสอบภายใน และงานธุรการ
การบริหารจัดการการลาให้สอดคล้องกับช้อบังคับการทำงานของบริษัท
การติดต่อสื่อสาร รวมถึงการให้การอ้างอิงและคำแนะนำ
วัตถุประสงค์ทางด้านสถิติและการวิเคราะห์ เพื่อการปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้างงาน
การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับแรงงาน สุขอนามัย และความปลอดภัยหรือตามที่หน่วยงานของรัฐร้องขอ
การจัดเก็บประวัติการดำเนินการทางวินัยต่อพนักงาน เพื่อการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการกำหนดมาตรการทางวินัยเมื่อจำเป็น
การดำเนินการตรวจสอบภายในเพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนหรือการเรียกร้อง ติดตามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงาน และป้องกันการฉ้อโกง
การติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่ท่านกำหนด
การป้องกันกิจกรรมของพนักงานซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการละเลยหน้าที่
การคุ้มครองความลับของข้อมูลและสินทรัพย์ของบริษัท
วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผลโดยเกี่ยวข้องกับการจ้างงานของท่าน (เช่น การดำเนินกิจกรรมหรือการดำเนินงานเพื่อหรือในนามของบริษัท) หรือตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างงานของท่าน ข้อบังคับการทำงาน หรือเอกสาร ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรบุคคลเพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาต การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขอ อาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน หรือการตัดสินใจจ้างงานท่าน หรือการถอนการเสนอจ้างงาน
บุคคลใดที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้
บริษัทอาจเปิดเผย หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่นไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยท่านสามารถอ่านนโนบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
ㆍกลุ่มบริษัท: ช้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเข้าถึงโดยหรือแบ่งปันกับนิติบุคคลอื่นภายในกลุ่มของบริษัท
เพื่อการวิเคราะห์ ข้อมูล การรายงานผลการคำเนินงานของบริษัท การบริหารความเสี่ยงหรือการตรวจสอบ
ภายในกลุ่มของบริษัท
ㆍ หน่วยงานของรัฐ: บริษัทแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับหน่วยงานของรัฐและองค์กรต่าง ๆ (เช่น ศาล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคาร
แห่งประเทศไทย กรมสรรพากร หน่วยงานภาษีอากร ในต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมบังดับคดี กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และสำนักงานส่งเสริม
และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฏระเบียบ หรือภาระหน้าที่ทางกฎหมาย
ㆍบุคคลภายนอกอื่นๆ: บริษัทอาจโอนหรืออนุญาตให้บุคคลภายนอก (เช่น พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของบริษัท (อาทิ ผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธนาคาร ผู้ให้บริการชำระเงิน บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล ตัวแทนยื่นขอวีซ่าหรือใบอนุญาตทำงาน บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล ผู้ให้บริการระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล ผู้ให้บริการฝึกอบรม หรือผู้ให้บริการทางการเงิน) เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ 2 ของนโยบายฉบับนี้
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ใน
ต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะ โอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
ระยะเวลาที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมาตามที่ระบุไว้ในน โยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังกับต่ง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและ ข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
การเข้าถึง : ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน
การโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือ โอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
การคัดค้าน: ในบางกรณี ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกิจกรรม
การลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป
การจำกัด: ท่านอาจมีสิทธิจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้องหรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป
การแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้องก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
การถอนความยินยอม: ท่นอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
การยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าบริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังดับใช้
หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุดคลของท่านภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เบอร์ติดต่อ 064-571-2478
อีเมล์ hrzenexprop@gmail.com
ที่อยู่ เลขที่ 59/10 ซ.ราษฎร์พัฒนา 35 แขวงราษฏร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240
เว็บไซต์ www.zenexproperty.com